ไหมเส้นเดียว หรือเรียกสั้นๆว่าไหมเดี่ยวแต่ร้อยปีเป็นงานทอเทคนิคดั้งเดิมมีความละเอียดสูงและใช้เวลาในการทอนานกว่า3สัปดาห์ต่อ1ใบ มีความสวยงามปราณีตมาก แต่เนื่องจากประชากรวายูมีจำนวนมากและยากจน บวกกับความนิยมของกระเป๋าวายูซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นทั่วโลก ทำให้ชาววายูหันมาถักงานเทคนิคไหมคู่ที่มีความละเอียดน้อยกว่าและใช้เวลาการถักและทอสั้นกว่าถึง2-3เท่า เพื่อแลกกับรายได้ที่มาไวกว่า เรียกกันว่าใช้เวลาถักกระเป๋าสั้นกว่าและก็ได้เงินไวกว่า คนซื้อใช้ก็ยินดีที่จะจ่ายในราคาเบาๆด้วยค่ะ จึงเป็นที่มาของการเริ่มถักกระเป๋าเทคนิคไหมคู่มาในระยะหลัง
จึงเห็นได้ว่า กระเป๋าวายูมีราคาต่างกัน ปัจจัยที่ทำให้กระเป๋าใน2เทคนิคนี้มีราคาต่างกันก็คือ ความละเอียดในการทอ, เทคนิคในการทอ, ลวดลายความซับซ้อน ยาก-ง่าย, คุณภาพวัสดุที่ใช้ทอ รวมถึงผู้ซื้อจ่ายในราคายุติธรรมให้แก่วายูหรือไม่ หรือแม่แต่ว่า…วายูท่านไหนเป็นผู้ทอ นั่นคือความมีชื่อเสียงของผู้ทอนั่นเองค่ะ ไหมเส้นเดียวที่ทอโดยวายูที่อยู่ตามชนบทและไม่มีทักษะงานทอมากนัก เรียนรู้การถักกันเอง จึงไม่มีการกำหนดราคาที่เป็นมาตรฐานรวมถึงเกิดแรงงานเด็กขึ้นในตลาดการทอ จึงมีราคาถูกกว่าวายูผู้เป็นมืออาชีพ ผู้ที่มีการฝึกทักษะฝีมือที่ปราณีตกว่า ที่สามารถถักลายยากๆซับซ้อน เรียงเฉดสีและลวดลายได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งการเลือกใช้คุณภาพของไหมและวัสดุอื่นที่เป็นไปตามมาตรฐาน และคงงานทอให้มีคุณภาพที่ควบคุมและประเมินโดยภาครัฐในสังกัดนั้นๆ หรือกลุ่มมูลนิธิต่างๆ แน่นอนว่างานที่มีความละเอียดน้อยกว่าหรือหยาบกว่า และปัจจัยข้างต้น ย่อมมีผลต่อราคาที่ถูกหรือแพงกว่า นั่นเองค่ะ
ไหมเส้นเดียวจะมีความละเอียดมากกว่าไหมคู่ ด้วยเทคนิคที่ใช้ไหมเพียงเส้นเดียวถักจรดจนรอบใบ แม้แต่วายูที่เป็นมืออาชีพก็ยังใช้เวลาถักกระเป๋าแบบไหมเดี่ยวต่อ1ใบกว่า2-3สัปดาห์ แต่ในงานไหมคู่ใช้เวลาเพียง3วันขั้นต่ำเท่านั้น จึงเป็นที่มาของคนที่ชื่นชอบไหมเส้นเดียวเพราะมีความละเอียดต่อแถวอย่างมาก และความละเอียดของไหมเส้นเดียว ทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบากว่าไหมคู่ประมาณ300กรัม++ โดยประมาณ คร่าวๆไหมเส้นเดียวมีน้ำหนักเบากว่าไหมคู่เท่าตัว (*ขึ้นอยู่กับเทคนิคการทอเฉพาะของตัวกระเป๋ารวมถึงองค์ประกอบทุกชิ้นส่วนด้วย )
แล้วไหมคู่ล่ะ มีข้อสังเกตอย่างไร? ไหมคู่จะมีการเดินลายที่หยาบกว่า ระหว่าแถวห่างกว่า และกระเป๋าวายูไหมคู่ในแต่ละเกรดก็มีความต่างกันของความห่างของแถว ความแน่น ปริมาณไหมที่ใช้ การทอให้แน่นหรือหลวม เป็นเทคนิคของวายูที่ถนัดต่างกันไป ลวดลาย(แพทเทริน์)ในไหมคู่จะไม่ได้พัฒนามาจากกลุ่มวายูดั้งเดิมที่มีทักษะในการออกแบบลวดลายเพื่อใช้ในไหมเดี่ยว โดยส่วนมากกระเป๋าวายูเทคนิคไหมคู่จึงปรากฎลวดลายซ้ำได้ง่ายเพราะไม่มีการจดลิขสิทธิ์การออกแบบลวดลายกับภาครัฐ แต่เป็นลวดลายที่หาได้ง่ายทั่วไป แต่ละลายจึงนำมาใช้ตามความนิยม ซึ่งปัจจุบันพบว่าลวดลายต่างๆในงานไหมคู่ไม่ใช่ลวดลายดั้งเดิมแท้ของงานชนเผ่าวายู แต่เป็นกลุ่มคนในพื้นที่ หรือนักออกแบบสมัยใหม่ เป็นลวดลายที่ใช้กับงานออกแบบกระเป๋าของบริษัทนักลงทุนนั้นๆ แต่มีรูปทรงของกระเป๋าคล้ายกับงานดั้งเดิมวายู
มาดูตัวอย่างความแตกต่างกันเบื้องต้นง่ายๆตามภาพของแซลลี่กันนะคะ ไหมเดี่ยวแถวละเอียดที่สุด(สีฟ้า), ไหมคู่ผสมคือเทคนิคที่ถักระหว่างตรงกลางของงานไหมเดี่ยวและไหมคู่ แต่มีการเรียงแถวละเอียดรองจากไหมเดี่ยว(สีน้ำเงิน) และภาพใน(สีเบจ) เป็นไหมคู่ค่ะ แถวจะห่างกว่าตามลำดับ เกิดความหนาตามมา
*ภาพนี้ถ่ายในสัดส่วนการถ่ายภาพที่เท่ากันค่ะ
![]() |
เปรียบเทียบความละเอียดของแต่ละเทคนิคในการถักกระเป๋าวายู |
Sally’s Handicraft รับซื้อสินค้ากับวายูที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายของรัฐบาลโคลอมเบีย และจ่ายราคายุติธรรมให้ชาววายูด้วยค่ะ
เรียบเรียงโดย แซลลี่ 28/4/2017
ปรับปรุงแก้ไขครั้งที่1เมื่อ 25/4/2018
ปรับปรุงแก้ไขครั้งที่2เมื่อ 16/6/2019